ตัวบ่งชี้ที่ 2.1 ระบบและกลไกงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรม

ปีที่ประเมิน 2564
ผู้ดูแลตัวบ่งชี้ : ประจวบ จันทร์หมื่น , อนุวัฒน์ ศรีสุวรรณ์ , อริศาพัชร จักรบุตร , สุรพงศ์ เบ้าทอง , ทินวชร์ เดชวัน , ปฏิกิติพัฒน์ ศรีมะณี , จันจิรา ชาติมนตรี , มานะศักดิ์ หงษ์คำชัย , สุชาติ ศรีชื่น
ชนิดตัวบ่งชี้ : กระบวนการ
คำอธิบายตัวบ่งชี้

มหาวิทยาลัยต้องมีการบริหารจัดการงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพ โดยมีแนวทาง การดำเนินงานที่เป็นระบบและมีกลไกส่งเสริมสนับสนุนครบถ้วน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ทั้งการสนับสนุนด้านการจัดหาแหล่งทุนวิจัยและการจัดสรรทุนวิจัยจากงบประมาณของสถาบันให้กับบุคลากรส่งเสริมพัฒนาสมรรถนะแก่อาจารย์และนักวิจัย การสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นซึ่งรวมถึงทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรการเงิน เครื่องมืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม นำผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียนหรือชุมชน ตลอดจนจัดระบบสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักวิจัยอย่างเหมาะสม ตลอดจนมีระบบและกลไกเพื่อช่วยในการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำไปใช้ประโยชน์

เกณฑ์การประเมิน
คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5
มีการดำเนินการ 1 ข้อ มีการดำเนินการ 2 ข้อ มีการดำเนินการ 3 - 4 ข้อ มีการดำเนินการ 5 - 6 ข้อ มีการดำเนินการ 7 ข้อ
เกณฑ์มาตรฐาน
ระดับ เกณฑ์มาตรฐาน ดำเนินการ
1 มีระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารงานวิจัยและงานสร้างสรรค์
2 สนับสนุนพันธกิจด้านการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์อย่างน้อยในประเด็นต่อไปนี้ - ห้องปฏิบัติการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือหน่วยวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือศูนย์เครื่องมือหรือศูนย์ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการวิจัย - ห้องสมุดหรือแหล่งค้นคว้าข้อมูลสนับสนุนการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ - สิ่งอำนวยความสะดวกหรือการรักษาความปลอดภัยในการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบรักษาความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิจัย - กิจกรรมวิชาการที่ส่งเสริมงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น การจัดประชุมวิชาการ การจัดแสดงงานสร้างสรรค์ การจัดให้มีศาสตราจารย์รับเชิญ (Visiting Professor)
3 จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ และสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ในการประชุมวิชาการ หรือการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ
4 มีการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัย มีการสร้างขวัญและกำลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์และนักวิจัยที่มีผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ดีเด่น
5 มีการดำเนินงานกับเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมระหว่างสถาบันอุดมศึกษา องค์กรภาครัฐหรือเอกชน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ
6 มีระบบและกลไกการนำผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียนหรือชุมชนและดำเนินการตามระบบที่กำหนด
7 มีระบบและกลไกการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำไปใช้ประโยชน์และดำเนินการตามระบบที่กำหนด
ผลการดำเนินงาน
ตนข้อเกณฑ์ผลการดำเนินงานหลักฐาน
1มีระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารงานวิจัยและงานสร้างสรรค์

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีสถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการงานวิจัย ซึ่งได้มีระบบบริหารจัดการงานวิจัย จำนวน 3 ระบบ ได้แก่

1. ระบบบริหารจัดการงานวิจัยจากทุนภายใน (2.1-1(1)) ได้แก่ ระบบบริหารจัดการงานวิจัยของหน่วยงาน (Department Research Management System : DRMS) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา ได้เปิดใช้งานระบบ DRMS ในการบริหารจัดการงานวิจัยและงบประมาณวิจัย สำหรับงบบำรุงการศึกษา (บกศ.) ซึ่งเป็นงบประมาณภายในของหน่วยงาน โดยระบบ DRMS พัฒนาระตามกระบวนการทำงานของระบบบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ (National Research Management System : NRMS) ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมของนักวิจัยรุ่นใหม่ในการเสนอขอทุนจากแหล่งทุน PMU ต่างๆ โดยคุณสมบัติหรือฟังก์ชั่นการใช้งานของระบบ DRMS มีดังนี้
          1.1 มีฟังก์ชั่นการประกาศทุนของหน่วยงาน
          1.2 การนำเข้าข้อมูลข้อเสนอการวิจัยหรือโครงการวิจัยจะเป็นไปตามรูปแบบ NRIIS
          1.3 มีระบบการจัดการข้อมูลนักวิจัยและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน
          1.4 สามารถแสดงข่าวประกาศ และทุนวิจัยที่เปิดรับของระบบ NRIIS ได้
          1.5 มีฟังก์ชั่นการบริหารจัดการข้อเสนอการวิจัย ดังนี้
                    1) การตรวจสอบข้อเสนอการวิจัย
                    2) ตรวจสอบความซ้ำซ้อน
                    3) ตรวจสอบการติดค้างโครงการของนักวิจัย
                    4) การประเมินข้อเสนอการวิจัยแบบออนไลน์
                    5) การประกาศผลการพิจารณาข้อเสนอการวิจัย
          1.6 สามารถนำเข้าข้อมูลผลผลิตผลลัพธ์ ผลกระทบ การนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ของโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วได้
          1.7 มีฟังก์ชั่นการบริหารจัดการโครงการวิจัย ดังนี้
                    1) การตรวจสอบข้อมูลโครงการ
                    2) การติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการโครงการ
                    3) การประเมินรายงานความก้าวหน้า หรือรายงานฉบับสมบูรณ์แบบออนไลน์
                    4) การเบิกจ่ายงบประมาณ และการปิดโครงการ
          1.8 มีระบบรายงานข้อเสนอการวิจัยและโครงการวิจัย และสามารถเลือกคอลัมน์การนำออกข้อมูลได้ตามต้องการ
          1.9 สามารถเชื่อมโยงข้อมูลงานวิจัยและข้อมูลผู้ใช้งานของหน่วยงานกับระบบ NRIIS ได้ ทั้งในส่วนของทุนงบประมาณแผ่นดินและทุนของหน่วยงานเอง

2. ระบบบริหารจัดการงานวิจัยจากทุนภายนอก (2.1-1(2)) ได้แก่ ระบบข้อมูลสารสนเทศวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (National Research and Innovation Information System : NRIIS) โดยเป็นระบบที่เกิดจากร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงบประมาณการวิจัยของประเทศ ได้แก่ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และหน่วยงานบริหารจัดการ (Program Management Unit: PMU) ดำเนินการออกแบบและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (National Research and Innovation Information System: NRIIS) เพื่อรองรับการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการงบประมาณการวิจัยและเป็นฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยคุณสมบัติหรือฟังก์ชั่นการใช้งานของระบบ NRIIS มีดังนี้
          2.1 Budget Allocation
                    1) จัดทำคำของบประมาณ/สร้างแผนงาน
                    2) ปรับงบประมาณแผนงาน/ข้อเสนอโครงการขั้นกลั่นกรอง
                    3) ปรับงบประมาณแผนงาน/ข้อเสนอโครงการขั้น Pre-ceiling
                    4) ปรับงบประมาณแผนงาน/ข้อเสนอโครงการหลังขั้นกรรมาธิการ
          2.2 Proposal Submission & Assessment
                    1) เปิดรับข้อเสนอโครงการ
                    2) ประเมินข้อเสนอโครงการ
                    3) ปรับสถานะโครงการได้รับจัดสรร
          2.3 Ongoing & Monitoring
                    1) นำเข้าโครงการ 
                    2) กำหนดงวดเงิน/งวดงาน
                    3) จัดทำสัญญา
                    4) รายงานผลการดำเนินงาน
                    5) รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ
                    6) ครุภัณฑ์โครงการ
                    7) ปิดโครงการ/ขยายโครงการ
          2.4 Research Evaluation
                    1) รายงานผลผลิต/ผลลัพธ์/ผลกระทบ
                    2) การนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์

3. ระบบสารสนเทศงานวิจัยที่สถาบันวิจัยและพัฒนาได้พัฒนาขึ้น ได้แก่ ระบบสารสนเทศงานวิจัย เพื่อการบริหารจัดการ เป็นระบบบริหารจัดการงานวิจัยที่ใช้ร่วมกันระหว่าง ระดับคณะ กับ มหาวิทยาลัย ซึ่งผู้รับผิดชอบทั้งผู้บริหาร คณาจารย์ นักวิจัย เจ้าหน้าที่ จะมี USER และ PASSWORD ในการบริหารจัดการข้อมูลของหน่วยงานของตนเองได้ (2.1 - 1(3)) ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้ ดังนี้
          3.1 งานวิจัย
                    1) ชื่อโครงการภาษาไทย 2) แหล่งทุน 3) ปีงบประมาณ 4) หน่วยงาน 5) หัวหน้าโครงการ
          3.2 นักวิจัย
                    1) ชื่อ-สกุล 2) อีเมล์ 3) เบอร์ติดต่อ 4) สังกัด 5) สถานะ
          3.3 ตีพิมพ์เผยแพร่
                    1) ชื่อบทความ (ไทย) 2) ประเภทฐาน 3) วันที่เผยแพร่ 4) หน่วยงาน 5) นักวิจัย
          3.4 นำไปใช้ประโยชน์
                    1) โครงการวิจัย/งานสร้างสรรค์ 2) นักวิจัย 3) หน่วยงาน 4) ลักษณะของการใช้ประโยชน์

2สนับสนุนพันธกิจด้านการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์อย่างน้อยในประเด็นต่อไปนี้ - ห้องปฏิบัติการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือหน่วยวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือศูนย์เครื่องมือหรือศูนย์ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการวิจัย - ห้องสมุดหรือแหล่งค้นคว้าข้อมูลสนับสนุนการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ - สิ่งอำนวยความสะดวกหรือการรักษาความปลอดภัยในการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบรักษาความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิจัย - กิจกรรมวิชาการที่ส่งเสริมงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น การจัดประชุมวิชาการ การจัดแสดงงานสร้างสรรค์ การจัดให้มีศาสตราจารย์รับเชิญ (Visiting Professor)

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการสนับสนุนพันธกิจด้านการวิจัย ในประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. มีห้องปฏิบัติการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ 
    มีการจัดสรรพื้นที่และอุปกรณ์เพื่อให้เป็นห้องปฏิบัติการ หรือห้องปฏิบัติงานสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนงานวิจัยของอาจารย์ และนักศึกษา โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
     1.1 ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ (2.1-2(1)) ห้องปฏิบัติการทางคอมพิวเตอร์ (2.1-2(2)) และห้องปฏิบัติการงานด้านอุตสาหกรรม (2.1-2(3))
     1.2 ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ ห้องปฏิบัติการสาธารณสุขชุมชน (2.1-2(4)) และห้องอาคารห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การกีฬา (2.1-2(5))

2. มีห้องสมุดหรือแหล่งค้นคว้าข้อมูลสนับสนุนการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์
    มีห้องสมุดที่มีศักยภาพและสามารถตอบสนองต่อความต้องการในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพัฒนางานวิจัยแก่บุคคลากรภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (2.1-2(6)) ซึ่งมีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สำหรับนักวิจัยที่เข้ามาลงระบบข้อมูล หรือศึกษาค้นคว้าข้อมูล (2.1-2(7)) และวิทยาลัยกฎหมายและการปกครองมีศูนย์วิจัยเด็กและเยาวชน เพื่อปรึกษาหารือด้านงานวิจัย และสำหรับค้นคว้าเอกสารต่างๆ (2.1-2(8))

3. มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกหรือการรักษาความปลอดภัยในการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระบบรักษาความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิจัย
    มีการจัดเตรียมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการพัฒนาวิจัย ได้แก่
     3.1 ระบบฐานข้อมูลงานวิจัยอิเล็กทรอนิกส์ (2.1-2(9))
     3.2 ตลอดจนมีการจัดการเรื่องการรักษาความปลอดภัยในการวิจัย เพื่อให้นักวิจัยเกิดความสะดวกในการทำงาน และเกิดความปลอดภัยในการใช้ห้องปฏิบัติการเพื่อการวิจัยโดยได้มีการวางแนวปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน และจัดทำเป็นคู่มือเพื่อเผยแพร่ให้แก่บุคคลกรภายในได้รับทราบอย่างทั่วถึง ได้แก่
          - คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (2.1-2(10))
          - แนวทางการใช้ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (2.1-2(11))
          - แนวทางการใช้ห้องปฏิบัติการและอาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีบัณฑิต (2.1-2(12))
          - คู่มือการใช้ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ (2.1-2(13))
          - ระเบียบและแนวปฏิบัติการขอใช้บริการห้องปฏิบัติการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (2.1-2(14))
          - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์กลุ่มงานวิจัยและพัฒนา (2.1-2(15))

4. มีการจัดกิจกรรมวิชาการที่ส่งเสริมงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น การจัดประชุมวิชาการ
    มีการจัดโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมงานวิจัย และมีการสนับสนุนการจัดประชุมวิชาการ โดยการจัดให้มีศาสตราจารย์รับเชิญ
    4.1  มีการจัดโครงการอบรม การเขียนโครงการวิจัยเพื่อขอทุนภายนอก  โดย ผศ.ดร.ประทีป พืชทองหลาง วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ห้องประชุมถนอม อินทรกำเนิด โรงแรมศรีพฤทธาลัยราชภัฏสัมนาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (2.1-2(16))
    4.2 มีการจัดโครงการอบรมเทคนิคการเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติระดับนานาชาติในวันที่ 21 มิถุนายน 2565 โดย ศ.ดร.ปรีชา ประเทพา  (2.1-2(17))
    4.4 มีการจัดโครงการอบรมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์สำหรับคณะกรรมการและนักวิจัย (2.1-2(18))

3จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ และสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ในการประชุมวิชาการ หรือการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ และสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย และงานสร้างสรรค์ในการประชุมวิชาการ และการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติ หรือนานาชาติ ดังนี้

1.  จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนวิจัยหรืองานสร้างสรรค์
     มีการจัดสรรงบประมาณของสถาบันเพื่อเป็นทุนสนับสนุนการวิจัย ในปีงบประมาณ 2565 ดังนี้
         1.1 งบบำรุงการศึกษา (บกศ.) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา ได้จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนการวิจัย จำนวน 830,000 บาท โดยได้อนุมัติจัดสรรให้กับนักวิจัยทั้งหมด 18 โครงการ (2.1 - 3(1)) 
         1.2 งบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ประเภท Fundamental Fund (Basic Research)โดยได้จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนการวิจัย จำนวน 7,910,000 บาท ได้อนุมัติจัดสรรให้กับนักวิจัยทั้งหมด 22 โครงการ (2.1 - 3(2)) 

2. มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยในการประชุมทางวิชาการหรือการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติ หรือนานาชาติ โดยมีแนวทางในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการสนับสนุน ดังนี้
     2.1 มีการก่อตั้งคณะกองทุนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการออกระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ว่าด้วย กองทุนวิจัย พ.ศ. 2561 ในรูปแบบของคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย (2.1-3(3)) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยให้แพร่หลายทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในการขอรับสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ ที่เกิดจากงานวิจัยของบุคลากร (2.1-3(4)) , (2.1-3(5)) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย เพื่อจัดทำการประชาสัมพันธ์ เรื่อง ขอรับค่าตอบแทนการนำเสนอผลงานวิจัย และตีพิมพ์ในวารสาร ครั้งที่ 1/2565 วันที่ 5 มกราคม 2565 (2.1-3(6)) มีการประชาสัมพันธ์ เรื่อง ขอรับค่าตอบแทนการนำเสนอผลงานวิจัย และตีพิมพ์ในวารสาร และส่งผลงานวิจัยเข้าประกวดนักวิจัยดีเด่น โดยจัดทำบันทึกข้อความประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย บนเว็บไซต์สถาบันวิจัยและพัฒนา (2.1-3(7)) , (2.1-3(8)) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย ครั้งที่ 2/2565 วันที่ 15 มิถุนายน 2565 เพื่อพิจารณาผลนักวิจัยที่ได้รับค่าตอบแทนการนำเสนอผลงานวิจัย และตีพิมพ์ในวารสาร และส่งผลงานวิจัยเข้าประกวดนักวิจัยดีเด่น (2.1-3(9)) หลังจากคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาผลนักวิจัยที่ได้รับค่าตอบแทนการนำเสนอผลงานวิจัย และตีพิมพ์ในวารสาร ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนาได้ประกาศผลการพิจารณาลงสื่อประชาสัมพันธ์ของสถาบันวิจัยและพัฒนา รายละเอียด ดังนี้
        - นำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ จำนวน 16 ผลงาน ผลงานละ 1,650 บาท รวมทั้งสิ้น 26,400 บาท
        - นำเสนอผลงานวิจัยระดับนานาชาติ -ไม่มีผู้ยื่นขอ-
        - ตีพิมพ์เผยแพร่วารสารระดับชาติ TCI ฐาน 1 และฐาน 2
        - TCI ฐาน 1 จำนวน 3 ผลงาน ผลงานละ 3,300 บาท รวมทั้งสิ้น 9,900 บาท
        - TCI ฐาน 2 จำนวน 13 ผลงาน ผลงานละ 1,650 บาท รวมทั้งสิ้น 26,400 บาท
        - ตีพิมพ์เผยแพร่วารสารระดับนานาชาติ ในฐาน ISI หรือ Scopus รวมทั้งสิ้น 36,300 บาท แยกรายละเอียดเบิกจ่าย ดังนี้
              - Scopus (Q4) จำนวน 1 ผลงาน 5,445 บาท
              - Scopus (Q3) จำนวน 1 ผลงาน 9,075 บาท
              - Scopus (Q2) จำนวน 2 ผลงาน ผลงานละ 10,890 บาท รวมทั้งสิ้น 21,780 บาท (2.1-3(10)) 

    2.2 มหาวิทยาลัย ได้จัดทำประกาศ เรื่อง รางวัลสนับสนุนตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ ปีการศึกษา 2564 เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนางานวิจัยให้เป็นเลิศในการเผยแพร่ผลงานวิจัยระดับนานชาติ ประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์สถาบันวิจัยและพัฒนา (2.1-3(11)) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารงานวิจัยและพัฒนา ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565 ได้พิจารณารางวัลสนับสนุนตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิจัยระดับนานาชาติ ปีการศึกษา 2564 ดังนี้
         ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิจัยระดับนานาชาติ จำนวนทั้งสิ้น 115,000 บาท
         - (Q2) จำนวน 4 ผลงาน ผลงานละ 20,000 บาท รวมทั้งสิ้น 80,000 บาท
         - (Q3) จำนวน 1 ผลงาน 15,000 บาท
         - (Q4) จำนวน 2 ผลงาน ผลงานละ 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 20,000 บาท (2.1-3(12))

    2.3 สถาบันวิจัยและพัฒนาได้ประกาศผลการพิจารณานักวิจัยดีเด่น ดังนี้
          - นักวิจัยดีเด่นด้านการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก  :  อาจารย์จีระนันท์ วงศ์วทัญญู 
          - นักวิจัยดีเด่นด้านการตีพิมพ์เผยแพร่ระดับชาติหรือนานาชาติ  :  ไม่มีผู้ส่งผลงาน
          - นักวิจัยดีเด่นด้านการอ้างอิงผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ  :  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชรวรรณ สิทธิศาสตร์
          - นักวิจัยดีเด่นด้านการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร  :  ไม่มีผู้ส่งผลงาน (2.1-3(13))

4มีการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัย มีการสร้างขวัญและกำลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์และนักวิจัยที่มีผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ดีเด่น

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัย มีการสร้างขวัญและกำลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์และนักวิจัยที่มีผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ดีเด่น ดังนี้

1. มีการจัดกิจกรรมโครงการเพื่อพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัย จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
    1.1  มีการจัดอบรมการบริหารจัดการด้านการเงิน พัสดุและครุภัณฑ์ สำหรับโครงการวิจัย ภายใต้หลักธรรมมาภิบาล ในวันที่ 11 ตุลาคม 2564  (2.1-4(1))
    1.2 มีการจัดโครงการอบรม “จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์” และ “ส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสในการทำวิจัย”  วันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2564 (2.1-4(2))
    1.3 มีการจัดโครงการเทคนิคการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อให้ได้รับทุนสนับสนุน ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 (2.1-4(3))
    1.4 มีการจัดโครงการอบรมการจดสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร สำหรับผลงานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 (2.1-4(4))
    1.5 มีการจัดโครงการพัฒนากรอบการวิจัยเชิงพื้นที่ ในวันที่ 19 – 20 พฤษภาคม 2565 (2.1-4(5))

2. มีการสร้างขวัญและกำลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์และนักวิจัยที่มีผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ดีเด่น
    มีการจัดทำประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การยกย่องเชิดชูเกียรติ นักวิจัยดีเด่น เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้นักวิจัยที่มีผลงานดีเด่น โดยมีรับรางวัล เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท (2.1-4(6)) นอกเหนือจากนั้นยังมีการประชาสัมพันธ์การส่งผลงานเข้าประกวด ไปยังหน่วยงานต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีรางวัลประเภทต่างๆ ทั้งหมด 4 ประเภท  ประเภทละ 1 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท ประกอบด้วย รางวัลนักวิจัยดีเด่นด้านการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก 1 รางวัล , รางวัลนักวิจัยดีเด่นด้านการตีพิมพ์เผยแพร่ระดับชาติ หรือนานาชาติ 1 รางวัล , รางวัลนักวิจัยดีเด่นด้านการอ้างอิงผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ 1 รางวัล , รางวัลนักวิจัยดีเด่นด้านการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร 1 รางวัล (2.1-4(7)) 
    ส่งผลให้ในปีการศึกษา 2564 มีนักวิจัยที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 2 คน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย ครั้งที่ 2/2564 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 (2.1-4(8)) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และมหาวิทยาลัยมีการสร้างขวัญและกำลังใจตลอดจนยกย่องเชิดชูดเกียรติตามระบบกลไกที่กำหนด มีรายชื่อ ดังนี้
        1) นักวิจัยดีเด่นด้านการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก  :  อาจารย์จีระนันท์ วงศ์วทัญญู 
        2) นักวิจัยดีเด่นด้านการตีพิมพ์เผยแพร่ระดับชาติหรือนานาชาติ  :  ไม่มีผู้ส่งผลงาน
        3) นักวิจัยดีเด่นด้านการอ้างอิงผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ  :  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชรวรรณ สิทธิศาสตร์
        4) นักวิจัยดีเด่นด้านการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร  :  ไม่มีผู้ส่งผลงาน (2.1-4(9))

5มีการดำเนินงานกับเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมระหว่างสถาบันอุดมศึกษา องค์กรภาครัฐหรือเอกชน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการดำเนินงานกับเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมระหว่างสถาบันอุดมศึกษา องค์กรภาครัฐหรือเอกชน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ดังนี้

1.  เครือข่ายสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง
    1.1 ความร่วมมือ
         มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม  เพื่อส่งเสริมการวิจัยตามภารกิจการจัดกลุ่มมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและชุมชนอื่น ระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่งทั่วประเทศ โดยกำหนดเป้าหมาย นโยบายการพัฒนาระบบการวิจัย สนับสนุน ส่งเสริมการวิจัยสู่ความเป็นเลิศเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น (2.1- 5 (1))
            1) พัฒนาระบบบริหารจัดการวิจัยระดับสถาบันและระดับเครือข่ายที่จะมีนักจัดการงานวิจัยและชุมชน ท้องถิ่น
            2) พัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพนักวิจัยและเครือข่ายให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น
            3) เกิดการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นร่วมกัน ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาของชุมชน
            4) ส่งเสริมการนำผลงานวิจัย เพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นสู่การตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับชาติและนานาชาติ และมีส่วนร่วมในการดำเนินการระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนา (2.1 – 5 (2))
    1.2 ผลการดำเนินการ

            1) นักวิจัยแต่ละมหาวิทยาลัย ที่เข้าร่วมพัฒนาศักยภาพ สามารถพัฒนางานวิจัยเชิงพื้นที่/เชิงประเด็นในระดับสถาบันและระดับเครือข่าย ร่วมถึงการเป็นนักจัดการงานวิจัยชุมชน ท้องถิ่น
            2) เกิดการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น
​​​​​​​            2. เครือข่ายระบบบริหารข้อมูลนำชมพิพิธภัณฑ์แบบพกพา (Museum Pool)

2. ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา โครงการเครือข่ายระบบริหารข้อมูลนำชมพิพิธภัณฑ์แบบพกพา (Museum Pool ) กับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
     เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้โมไบล์แอฟพลิเคชั่น Museum Pool เป็นสื่อการเรียน รวมถึงเพื่อให้เกิดศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีพิพิธภัณฑ์ชุมชน (Excellent Center) ในภูมิภาค อันจะนำไปสู่การพัฒนาเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลในชุมชน (2.1 - 5 (3))
     2.1 ความร่วมมือ
          1) สร้างเครือข่ายสถาบันการศึกษา
          2) ส่งเสริมการใช้โมไบล์แอพลิเคชั่น Museum Pool เป็นสื่อการเรียนการสอน
          3) สร้างความร่วมมือในชุมชน พื้นที่เป้าหมายในการสร้างเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่
          4) สร้างแหล่งข้อมูลเชิงอัตลักษณ์ในพื้นที่
          5) เกิดศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีพิพิธภัณฑ์ชุมชน (Excellent center ) ในภูมิภาค
       2.2 ผลการดำเนินการ
          1) นักวิจัยมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ที่สะท้อนถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมในท้องถิ่น จังหวัดศรีสะเกษ และการใช้แอพลิเคชั่น Museum Pool เพื่อสื่อการเรียนการสอน และได้เผยแพร่ให้กับผู้คนที่สนใจ
          2) การขับเคลื่อนพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

3. เครือข่ายงานวิจัยท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    3.1 ความร่วมมือ
          มีการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายด้านงานวิจัยการท่องเที่ยวโดยชุมชนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ปีที่ 2 โดยมีการขับเคลื่อนงานวิจัยท่องเที่ยวกับเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีที่ (2.1-5 (4))
    3.2 การดำเนินการร่วมกัน

​​​​​​​         ได้มีการประชุมระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยราชภัฏในกลุ่มภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนของเครือข่าย และได้ส่งนักวิจัยเข้าร่วมพัฒนาโครงการวิจัยร่วมกันของเครือข่ายวิจัยการท่องเที่ยว         
     3.3 ผลการดำเนินการ
         จากความร่วมมือระหว่างเครือข่ายเครือข่ายด้านงานวิจัยการท่องเที่ยวโดยชุมชนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ผลการดำเนินการ พบว่า
         ผลผลิตจากงานวิจัย คือ ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว ที่มาจากองค์ความรู้ทางภูมิปัญญา อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และองค์ความรู้ทางวิชาการ ซึ่งเป็นงานวิจัยและนวัตกรรมที่จะยกระดับมูลค่าเพิ่มทางสินค้า ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างรายได้และเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนบนฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่น การพัฒนาโปรแกรมและกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยว การพัฒนาระบบการตลาดและการจัดการโลจิสติกส์สำหรับการท่องเที่ยว
​​​​​​​         ขณะที่งานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเรื่อง นวัตกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ตามอัตลักษณ์วัฒนธรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนผ้าปักแซว บ้านรงระ ตำบลตูม อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ผลผลิตจากงานวิจัย คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทอผ้า ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า ของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าอื่นๆ ภายใต้แผนงานการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาพื้นที่บนฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่น

 

6มีระบบและกลไกการนำผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียนหรือชุมชนและดำเนินการตามระบบที่กำหนด

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มีการผลักดันให้นักวิจัยนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ตามระบบการและกลไกการเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ ดังนี้

1. มีการจัดทำคู่มือการบริหารงานวิจัย (2.1-6(1)) และกำหนดระบบและกลไกการนำผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียนหรือชุมชน 5 ขั้นตอน ดังนี้
    ขั้นตอนที่ 1 ประชุมวางแผนดำเนินการ โดยมีวิธีการดังนี้
          1.1 ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องทำหนังสือเชิญผู้เข้าประชุม ได้แก่นักวิจัย นักวิชาการ คน แกนนำกลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ กรรมการดำเนิน
          1.2 ประชุมวางแผนการดำเนินงานและแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
    ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์รูปแบบการใช้ประโยชน์ โดยมีวิธีการดังนี้
          2.1 ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ ผู้ใช้ประโยชน์โดยตรงจากการวิจัย ฝ่ายที่มีส่วน ส่งเสริมสนับสนุน ฝ่ายนักวิชาการ ผู้บริหารระดับนโยบาย และผู้สนใจ
          2.2 ประชุมร่วมกันวิเคราะห์รูปแบบการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ตามประเภทของงานวิจัยและ กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ เช่น การใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอน การตัดสินใจเชิงนโยบาย การพัฒนาธุรกิจเป็นต้น
    ขั้นตอนที่ 3 พิจารณารูปแบบการใช้ประโยชน์ โดยมีวิธีการดังนี้
          3.1 กรณีไม่ใช่การติดต่อโดยตรงจัดแยกไปพิจารณารูปแบบการเผยแพร่ ซึ่งอาจเป็นการเผยแพร่โดย วารสารหรือจัดประชุมวิชาการ
          3.2 กรณีติดต่อโดยตรงกับผู้ใช้ประโยชน์ จัดเข้ากลุ่มกิจกรรมเฉพาะที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
    ขั้นตอนที่ 4 การจัดกิจกรรมใช้ประโยชน์โดยตรงตามกลุ่มเป้าหมาย โดยมีวิธีการดังนี้
          4.1 ประชุมวางแผนปฏิบัติงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ นักวิจัย คณะกรรมการดำเนินงาน และกลุ่ม ผู้ใช้ประโยชน์งานวิจัย
          4.2 ปฏิบัติการสู่การใช้ประโยชน์โดยตรงตามแผนที่กำหนดในรูปแบบต่างๆ เช่น
                    4.2.1 ส่งผลวิจัยตรงกับผู้ใช้และติดตามผล
                    4.2.2 จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรก่อนการส่งผลต่อผู้ใช้
                    4.2.3 สังเคราะห์องค์ความรู้ก่อนการนำไปใช้
                    4.2.4 จัดโครงการขยายผลสู่กลุ่มเป้าหมาย
    ขั้นตอนที่ 5 จัดการความรู้ บันทึกผลเพื่อนำไปใช้ โดยมีวิธีการดังนี้
          5.1 ประชุมคณะผู้ดำเนินการเสนอผลการประเมินการจัดประชุมเพื่อนำผลไปใช้ปรับปรุง
          5.2 จัดการความรู้โดยใช้เทคนิค After Action Review (AAR) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

2. การดำเนินการตามระบบที่กำหนด
    มหาวิทยาลัยฯ มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในด้านวิชาการ ด้านการพัฒนาชุมชน สังคม ท้องถิ่น ตลอดจนเชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ และเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีการดำเนินงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในคู่มือการบริหารงานวิจัยอย่างเป็นระบบ ดังนี้
    ขั้นตอนการวางแผน
         1. มหาวิทยาลัยฯ ได้สัญจรไปทุกคณะ/วิทยาลัย สำนักและสถาบัน ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลศักยภาพนักวิจัย สถานภาพงานวิจัย และความต้องการงานวิจัย  (2.1-6(2)) (2.1-6(3))
         2. มหาวิทยาลัยฯ ได้ขอข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภายในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสอบถามความต้องการงานวิจัย เพื่อนำมาเป็นกรอบในการวิจัยของหน่วยงาน (2.1-6(4)) และได้จัดเสวนาในรูปแบบออนไลน์ผ่านโปรแกรม zoom ในหัวข้อ “มุ่งเป้าสู่การวิจัยใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจกับทุน บพข.” ซึ่งได้เชิญตัวแทนจากภาคธุรกิจที่จะมาแลกเปลี่ยนถึงความต้องการงานวิจัยของภาคธุรกิจจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าธุรกิจอีกด้วย (2.1-6(5))
         3. มหาวิทยาลัยฯ ได้จัดโครงการพัฒนากรอบการวิจัยเชิงพื้นที่ โดยมีตัวแทนของคณะต่างๆ เข้าร่วม ศึกษาบริบท สภาพปัญหา ความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ของพื้นที่ทุ่งกุลา และชายแดน จังหวัดศรีสะเกษ และนำข้อมูลจากการลงพื้นที่มาพัฒนากรอบการวิจัยให้สอดคล้องกับความต้องการการใช้ประโยชน์จากท้องที่อย่างเป็นรูปธรรม (2.1-6(6))
         4. มหาวิทยาลัยฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งเสริมให้นักวิจัยมีการสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่องและเป็นการคุ้มครองสิทธิ์จากการสร้างสรรค์ผลงาน (2.1-6(7))
         5. มหาวิทยาลัยฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย (2.1-6(8)) เพื่อสนับสนุนให้นักวิจัยเผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติ และนานาชาติ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในการขอรับสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ ที่เกิดจากงานวิจัยของบุคลากร ซึ่งได้จัดทำประกาศหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนเพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัย (2.1-6(9)) และประกาศหลักเกณฑ์การยกย่องเชิดชูเกียรตินักวิจัยดีเด่น (2.1-6(10))
    ขั้นตอนวิเคราะห์รูปแบบการใช้ประโยชน์

        มีการจัดการจัดการความรู้ (KM) แนวทางการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ได้รูปแบบการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ 5 ด้าน (2.1-6(11)) คือ
                  1.1 การนำไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย
                  1.2 การนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
                  1.3 การนำไปใช้ประโยชน์เชิงวิชาการ
                  1.4 การนำไปใช้ประโยชน์เชิงสาธารณะ
                  1.5 การนำไปใช้ประโยชน์เชิงพื้นที่

    ขั้นตอนพิจารณารูปแบบการใช้ประโยชน์ และการจัดกิจกรรมใช้ประโยชน์โดยตรงตามกลุ่มเป้าหมาย
        การพิจารณารูปแบบการใช้ประโยชน์ นักวิจัยจะเป็นผู้พิจารณาการนำไปใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยด้วยตนเอง โดยพิจารณาดังนี้
            1. กรณีไม่ใช่การนำไปใช้ประโยชน์โดยตรงให้นำไปเผยแพร่โดยการตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารหรือในการจัดการประชุมวิชาการ ตามระบบและกลไกส่งเสริมสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย ของคู่มือการบริหารจัดการงานวิจัย (2.1-6(12))
            2. กรณีการนำไปใช้ประโยชน์โดยตรงกับผู้ใช้ประโยชน์ ให้นักวิจัยส่งต่อผลงานวิจัยให้กับผู้ใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และให้ผู้ใช้ประโยชน์ส่งแบบตอบรับการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ (2.1-6(13))

    ขั้นตอนจัดการความรู้ บันทึกผลเพื่อนำไปใช้
        มหาวิทยาลัยฯ มีการนำผลการวิจัยและแบบตอบรับการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ มาสังเคราะห์องค์ความรู้ก่อนการนำไปใช้ประโยชน์ (2.1-6(14))

7มีระบบและกลไกการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำไปใช้ประโยชน์และดำเนินการตามระบบที่กำหนด

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ได้มีระบบและกลไกเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำไปใช้ประโยชน์และดำเนินการตามระบบที่กำหนด ดังนี้

1. ระบบและกลไกเพื่อคุ้มครองสิทธิ์
    1.1 มีการออกระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ.2553 (2.1-7 (1)) เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติในการคุ้มครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนงานวิจัยต่างๆที่ถูกพัฒนาขึ้นในมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
    1.2 มีการออกประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เรื่อง แนวปฏิบัติในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย (2.1-7 (2)) เพื่อผลักดันให้มีการนำผลงานที่ได้จากการวิจัยในเชิงวิชาการออกใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มากขึ้นสร้างสรรค์ผลงานการประดิษฐ์หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อันอาจนำไปเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้
    1.3 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เพื่อทำหน้าที่ (2.1-7 (3)) พิจารณา ให้ความเห็น กำกับติดตาม และดำเนินงานให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยอาจารย์หรือนักวิจัยที่ต้องการร้องขอการคุ้มครองสิทธิ์ในงานวิจัยสามารถดำเนินการตามขั้นตอนตามแผนภาพขั้นตอนการดำเนินงานตามระบบที่กำหนดในกรณีที่ต้องการร้องขอความคุ้มครอง (2.1-7 (4)) โดยมีขึ้นตอนในการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ ดังต่อไปนี้
          1) เจ้าของผลงานวิจัยชิ้นที่ถูกละเมิดสิทธิ์ดำเนินการยื่นคำร้องมาที่งานวิจัยและพัฒนา พร้อมแนบเอกสารหลักฐานที่แสดงว่าตนเองเป็นเจ้าของผลงานที่ถูกละเมิดสิทธิ์ ตลอดจนหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการละเมิดสิทธิ์ในงานวิจัยของตนเอง หรือเอกสารอื่น ๆ ประกอบเพื่อความชัดเจน
          2) งานวิจัยและพัฒนาเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของผลงาน ทำการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และตรวจสอบความสมบูรณ์ของเรื่องร้องเรียน (2.1-7 (5))
          3) ดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิ์ของงานวิจัยที่ได้มีการร้องเรียน
          4) นำเสนอแนวทางในการจัดการปัญหาด้านการละเมิดสิทธิ์ และมติของที่ประชุมคณะกรรมการฯต่ออธิการบดีเพื่อสังการตามอำนาจของอธิการบดี
          5) ในกรณีที่ต้องการฟ้องร้องหรือดำเนินการเอาผิดทางคดีความให้นิติกรของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเป็นผู้ดำเนินการ
    1.4 มีการออกระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ว่าด้วย กองทุนวิจัย ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยที่เกิดจากการให้ทุนสนับสนุนจากกองทุนวิจัย อาทิ ผลงาน ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร รวมทั้งทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากงานวิจัย ตามระเบียบนี้ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย เว้นแต่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่นแต่ผู้วิจัยมีสิทธิตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อประโยชน์ในทางวิชาการได้ การตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิจัยอันเป็นผลงานที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินกองทุนวิจัย และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (2.1-7 (6)) ยังไม่พบว่ามีการร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิ์ต่องานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์ และยังไม่มีการร้องขอการคุ้มครองสิทธิ์แต่อย่างใด
    1.5 มีการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้นักวิจัยมาจดสิทธิบัตรในหลากหลายรูปแบบ เช่น แจ้งเป็นหนังสือบันทึกข้อความ ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ  (2.1-7 (7)) ทั้งนี้ สถาบันวิจัยและพัฒนา ได้มีกระบวนการดำเนินงานตั้งแต่การประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักวิจัย       โดยมีการแสดงข้อมูลกระบวนการ/ขั้นตอนการยื่นและเอกสารเกี่ยวกับการยื่นจดสิทธิบัตรต่างๆขึ้นทางเว็บไซต์

2. มีการดำเนินการตามระบบที่กำหนด
    มีการจัดประชุมวิเคราะห์ตัวช้วัดและค่าเป้าหมาย ปี 2566 – 2570 ร่วมกับบุคลากรจากคณะ/วิทยาลัย โดยมีตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำไปใช้ประโยชน์ (2.1-7 (8)) ในตัวชี้วัดที่ 2 ซึ่งมีการกำหนดค่าเป้าหมายร่วมกัน ดังตารางนี้

ตัวชี้วัด

ค่าเป้าหมาย

2566

2567

2568

2569

2570

1. จำนวนนักวิจัยที่สามารถขอทุนจากแหล่งทุนภายนอก

18

20

22

24

26

2. จำนวนผลงานวิจัยที่เข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา

1

1

1

2

2

3. จำนวนผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในระดับชาติหรือนานาชาติ

18

20

22

24

26

4. จำนวนเครือข่ายความร่วมมือในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

1

2

3

4

5

5. ร้อยละงานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

30

35

40

45

50

6. จำนวนงานวิจัย นวัตกรรม ผลงานรับใช้ท้องถิ่นและสังคม และผลงานสร้างสรรค์ของมหาวิทยาลัยได้รับการเผยแพร่ตามเกณฑ์ ก.พ.อ. กำหนด

10

15

20

25

30

7. จำนวนผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

1

1

1

2

2

8. จำนวนชิ้นงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมที่บูรณาการการเรียนการสอน การบริการวิชาการ หรือการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

6

8

10

12

14

9. สัดส่วนจำนวนเงินทุนสนุบสนุนงานวิจัยภายนอกและภายในต่ออาจารย์ประจำและนักวิจัย

         

9.1 กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

60,000:1

60,000:1

60,000:1

65,000:1

70,000:1

9.2 กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ

50,000:1

50,000:1

50,000:1

50,000:1

60,000:1

9.3 กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

25,000:1

25,000:1

25,000:1

25,000:1

30,000:1

ผลคะแนนการประเมินตนเอง
ทำได้ (ข้อ) ได้คะแนน
7 ข้อ 5 คะแนน