มีผลกระทบที่เกิดประโยชน์และสร้างคุณค่าต่อสังคม หรือชุมชน/องค์กรอย่างเข้มแข็ง ดังนี้
1. ชุมชนบ้านหัวนา อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
เป็นพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และมีการดำเนินส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำองค์ความรู้ศาสตร์วิชาต่างๆ ตามความเชี่ยวชาญของทุกคณะ บูรณาการกิจกรรมเพื่อพัฒนาชุมชน จากการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน พบว่าการดำเนินงานส่งผลให้ชุมชนมีผลกระทบที่เกิดประโยชน์สร้างคุณค่าอย่างเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ (In Cash) สังคม (In Kind) และเครือข่าย (Development Network) ในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็ง ดังนี้
1.1 มีจุดเด่นด้านเศรษฐกิจ (In Cash) จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้ ดังนี้
1) มีรายได้จากการจัดงานประเพณีประจำปีของหมู่บ้าน คือ งานข้าวใหม่ปลามัน โดยมีหน่วยงานการ เอกชน และนักท่องเที่ยว จำนวนมาก มีการแสดงวัฒนธรรมฟ้อนกองตุ้ม มีการจำหน่ายอาหารประจำถิ่นขันโตก มีการจัดจำหน่ายสินค้าประจำหมู่บ้าน เช่น ปลาส้ม อ่องปูนา ผ้าไหม และอื่นๆ
2) มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนในงานเทศกาลประจำปีของจังหวัด เช่น เทศกาลงานแสงสีเสียงงานดอกลำดวนบาน งานกาชาด การจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานของรัฐๆ ภายในจังหวัด และอื่นๆ
3) มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นสินค้าโอทอป เช่น จำหน่ายปลา ปูนา อ่องปูนา พรหมเช็ดเช้า ผ้าไหม ฯลฯ โดยเฉลี่ยมีรายได้จากการแปรรูปและจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์อาทิตย์ละ 5,000-12,000 บาท สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 152,325 บาท และมีแนวโน้มความต้องการทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าหากบริหารจัดการปูได้ดีตลอดทั้งปี จะสามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี
1.2 สังคม (In Kind) จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ :ชนบ้านหัวนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแหล่งใหม่ของจังหวัดศรีสะเกษ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมาไม่ขาดสาย มีแหล่งเรียนรู้ชาติพันธ์สี่เผ่าไทยที่เกิดการยอมรับจากหน่วยงาน เช่น วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยงานอื่นๆ อย่างกว้างขวาง ที่สำคัญบ้านหัวนา ยังเป็นชุมชนที่มหาวิทยาลัยคัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบ และเป็นตัวแทนชาติพันธ์ลาวเข้าร่วมจัดแสดงผลงานนิทรรศการสี่เผ่าไทย ในงานแสงสีเสียงประจำจังหวัดทุกปี นอกเหนือจากนั้นมหาวิทยาลัยและชุมชนได้มีโอกาสครั้งสำคัญในการต้อนรับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ในการลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานพื้นที่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
1.3 เครือข่าย (Development Network) มีเครือข่ายร่วมพัฒนา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ศูนย์พัฒนานโยบายสาธารณะจังหวัดศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวนา สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ วัดจำปาหัวนา และโรงเรียนบ้านกอกหัวนา
1. ชุมชนบ้านกู่ ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ
เป็นพื้นที่เป้าหมายในการบริการวิชาการแก่สังคมของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมหาวิทยาลัยร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดศรีสะเกษ เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ประมงจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เกษตรจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และอื่นๆ ส่งเสริมและพัฒนาชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ เช่น การอบรมมัคกุเทศน์สำหรับชาวบ้านและเยาวชน การอบรมการปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนและการทำโฮมสเตย์เพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีชุมชน การส่งเสริมและพัฒนาผ้าลายลูกแก้วและออกแบบบรรจุภัณฑ์ การส่งเสริมการเลี้ยงกบเพื่อเป็นอาหารและเป็นฐานการเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนการอบรมสร้างของที่ระลึกให้เป็นสินค้าประจำหมู่บ้านในการขายให้กับนักท่องเที่ยว การยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยวและพัฒนาแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ชุมชน และอื่นๆ พบว่าการดำเนินงานส่งผลให้ชุมชนมีผลกระทบที่เกิดประโยชน์สร้างคุณค่าอย่างเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ (In Cash) สังคม (In Kind) และเครือข่าย (Development Network) ในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็ง ดังนี้
1.1 มีจุดเด่นด้านเศรษฐกิจ (In Cash) จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้ ดังนี้
1) มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในชุมชน เช่น ของที่ระลึกปราสาทปรางค์กู่ อาหารประจำถิ่น ผ้าลายลูกแก้ว ขนม และอื่นๆ
2) มีรายได้จากการจัดงานแสงสีเสียงบุญเบิกฟ้างานประเพณีประจำตำบล ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงเชิงวัฒนธรรม มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงาน และอื่นๆ
3) มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในงานเทศกาลประจำปีของจังหวัด
ศรีสะเกษ เช่น การแสดงแสงสีเสียงในเทศกาลดอกลำดวนบาน งานกาชาด การจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานของรัฐๆ ภายในจังหวัด และอื่นๆ
4) รายได้จากคณะที่เข้ามาศึกษาดูงานในชุมชนจากหน่วยงานต่างๆ
1.2 สังคม (In Kind) ชุมชนบ้านกู่เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชาติพันธ์กูยประจำจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีจุดเด่นที่เป็นอัตลักษณ์ เช่น ชุดประจำถิ่น ขนมประจำถิ่น แหล่งเรียนรู้ชาติพันธ์กูย ภาษาท้องถิ่น ฯลฯ มีจุดแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรม คือ ประสาทปรางค์กู่ และเป็นชุมชนต้นแบบทางศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจพอเพียง ระดับจังหวัด จากสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และระดับประเทศ จากกระทรวงวัฒนธรรม มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมากใช้พื้นที่ชุมชนบ้านกู่เป็นแหล่งเรียนรู้ และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในชุมชนจำนวนมาก สามารถสืบค้นข้อมูลชุมชนในเว็บไซต์ได้อย่างกว้างขวาง และเป็นตัวแทนชาติพันธ์กูยเข้าร่วมจัดแสดงผลงานนิทรรศการสี่เผ่าไทย ในงานแสงสีเสียงประจำจังหวัดทุกปี นอกเหนือจากนั้นชุมชนยังมีการจัดงานแสงสีเสียงประจำตำบลอีกด้วย
1.3 เครือข่าย (Development Network) มีเครือข่ายร่วมพัฒนา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ,จังหวัดศรีสะเกษ ,สภาวัฒนาธรรมจังหวัด ,พัฒนาชุมชน
1. ชุมชนตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
ปี พ.ศ. 2564 สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตำบลไพรพัฒนา อำเภอ ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ศึกษาสภาพพื้นที่และสำรวจความต้องการ ชุมชน ได้ค้นพบ ปราญชุมชนที่มีทักษะ การเลี้ยงหาน้ำผึ้งป่า คือ นายประดิษฐ์ บุญออน ขณะนั้น อายุ 31 ปี ซึ่งมีการรวมกลุ่มกับเพื่ออีก 3 คน เก็บน้ำผึ้งในป่า และมีการสร้างกล่องล่อผึ้ง เพื่อให้ผึ้งเข้าอยู่ทำให้เก็บน้ำผึ้งได้ง่ายขึ้น จากการประชุมได้มีมติร่วมขอให้มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จัดโครงการอบรมการทำกล่องล่อผึ้งและต่อยอดผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายพื้นที่การเลี้ยงผึ้ง และสร้างทักษะการสร้างกล่องล่อผึ้งและการหาน้ำผึ้งให้กับคนในชุมชนด้วยเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับกลุ่มในการทำผลิตภัณฑ์เทียนหอม สีผึ้งทาปาก และ ย่าหม่องจากไขผึ้ง ในชื่อแบรนด์พญากรูปรี เสริมสร้างทักษะการขายและการตลาดออนไลน์ให้แก่สมาชิก ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีผู้สนใจเข้ามาศึกษาการเลี้ยงผึ้งโพรงป่า ขยายและต่อยอดองค์ความรู้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเล็กๆๆ มีผึ้งไม่ถึงห้าสิบกล่อง ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นและมีการต่อยอดไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง โดยมี 2564- 2566 มุ่งจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ และทักษะ การขายและการตลาดอย่างมืออาชีพ โดยการอบรมให้ความรู้ทักษะ การพูด การขาย การทำสื่อเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ ส่งเสริมให้นำสินค้าขายในแพทฟอร์มออนไลน์ มีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ต่อยอดสินค้าเพื่อเป็นของฝาก ในราคาที่ไม่แพงมาก ทั้งนี้พบว่าการดำเนินงานส่งผลให้ชุมชนมีผลกระทบที่เกิดประโยชน์สร้างคุณค่าอย่างเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ (In Cash) สังคม (In Kind) และเครือข่าย (Development Network) ในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็ง ดังนี้
1.1 มีจุดเด่นด้านเศรษฐกิจ (In Cash) จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้ ดังนี้
1) มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในชุมชน เช่น น้ำผึ้ง ยาหม่องจากไขผึ้ง สีผึ้งทาปาก แจ่วบองปลาร้า เยลลี่น้ำผึ้ง ลูกอมน้ำผึ้ง และนมสดน้ำผึ้งเยลลี่น้ำผึ้งและอื่นๆ
2) มีรายได้จากการเป็นวิทยากรเผยแพร่องค์ความรู้ และอื่นๆ
3) มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในงานเทศกาลประจำปีของอำเภอและจังหวัด
4) รายได้จากคณะที่เข้ามาศึกษาดูงานในชุมชนจากหน่วยงานต่างๆ
1.2 สังคม (In Kind) ตำบลไพรพัฒนา เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และวัฒนธรรมมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมากใช้พื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในชุมชนจำนวนมาก บริบทพื้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และมีจุดเด่นที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าชายแดน ทั้งนี้การเลี้ยงผึ้งในพื้นที่จากที่ทำเฉพาะกลุ่มเล็กๆภายในสามปี มีความโดดเด่นชัดเจน สมาชิกผู้เลี้ยงผึ้งสร้างได้จากเพิ่มขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์ยังได้รับการยอมรับในวงกว้าง สร้างเพทที่เป็นอัตลักษ์ สื่อสารถึงการเลี้ยงผึ้งธรรมชาติ เป็นเพทให้ความรู้ที่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับรายได้จากการสร้างเพท และได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการต่างๆๆ เข้ามาส่งเสริมเพิ่มขึ้นในปี 2566 นี้ อำเภอภูสิงห์มีการสร้างภาคีเครือข่ายส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งโพรง ด้วย
1.3 เครือข่าย (Development Network) มีเครือข่ายร่วมพัฒนา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ,พัฒนาชุมชนอำเภอภูสิงห์, ศูนย์ส่งเสริมวิชาการเกษตรภูสิงห์มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
|