ตัวบ่งชี้ที่ 1.5 การบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล

ปีที่ประเมิน 2565
ผู้ดูแลตัวบ่งชี้ : พรรทิภา พรมมา , อังคณา ลิ้มพงศธร
ชนิดตัวบ่งชี้ : กระบวนการ
คำอธิบายตัวบ่งชี้

การบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยผู้บริหารของหน่วยงานแสดงความมุ่งมั่นต่อการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ให้นโยบาย สร้างบรรยากาศ กําหนดแนวทางกํากับติดตาม แสดงตนเป็นตัวอย่างที่ดี ทําให้มั่นใจว่าพันธกิจและวิสัยทัศน์สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับหลักจริยธรรม พฤติกรรมที่มีจริยธรรมควรมีการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ บุคลากรประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล และผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรับรู้และเชื่อมั่นด้านธรรมาภิบาล ของหน่วยงาน สามารถอธิบายการดําเนินงานได้อย่างชัดเจนครบถ้วนทั้ง 10 ประการ ได้แก่ 1) หลักประสิทธิผล 2) หลักประสิทธิภาพ 3) หลักการตอบสนอง 4) หลักภาระรับผิดชอบ 5) หลักความโปร่งใส 6) หลักการมีส่วนร่วม 7) หลักการกระจายอํานาจ 8) หลักนิติธรรม 9) หลักความเสมอภาค และ 10) หลักมุ่งเน้นฉันทามติ

เกณฑ์การประเมิน
คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5
มีการดำเนินการ 1 หรือ 2 ข้อ มีการดำเนินการ 3 หรือ 4 ข้อ มีการดำเนินการ 5 หรือ 6 ข้อ มีการดำเนินการ 7 หรือ 8 ข้อ มีการดำเนินการ 9 หรือ 10 ข้อ
เกณฑ์มาตรฐาน
ระดับ เกณฑ์มาตรฐาน ดำเนินการ
1 หลักประสิทธิผล (Effectiveness) คือ ผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของ แผนการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณมาดําเนินการ รวมถึงสามารถเทียบเคียงกับส่วนราชการหรือ หน่วยงานที่มีภารกิจคล้ายคลึงกันและมีผลการปฏิบัติงานในระดับชั้นนําของประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อ ประชาชน โดยการปฏิบัติราชการจะต้องมีทิศทางยุทธศาสตร์และเป้าประสงค์ที่ชัดเจน มีกระบวนการปฏิบัติงาน และระบบงานที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงมีการติดตามประเมินผลและพัฒนา ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
2 หลักประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การบริหารราชการตามแนวทางการกํากับดูแลที่ดีที่มีการออกแบบ กระบวนการปฏิบัติงานโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือการบริหารจัดการที่เหมาะสมให้องค์การสามารถใช้ทรัพยากร ทั้งด้านต้นทุน แรงงานและระยะเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติราชการ ตามภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
3 หลักการตอบสนอง (Responsiveness) คือ การให้บริการที่สามารถดําเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กําหนด และสร้าง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ รวมถึงตอบสนองความคาดหวังหรือความต้องการของประชาชน ผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความหลากหลายและมีความแตกต่าง
4 หลักภาระรับผิดชอบ (Accountability) คือ การแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่อเป้าหมายที่กําหนดไว้ โดยความรับผิดชอบนั้นควรอยู่ในระดับที่สนองต่อความคาดหวังของสาธารณะ รวมทั้งการแสดงถึงความสํานึกในการรับผิดชอบต่อปัญหาสาธารณะ
5 หลักความโปร่งใส (Transparency) คือ กระบวนการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงได้ เมื่อมีข้อสงสัย และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายได้อย่างเสรี โดยประชาชนสามารถรู้ทุกขั้นตอนในการดําเนินกิจกรรมหรือกระบวนการต่างๆ และสามารถตรวจสอบได้
6 หลักการมีส่วนร่วม (Participation) คือ กระบวนการที่ข้าราชการ ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกกลุ่มมีโอกาสได้เข้าร่วมในการรับรู้ เรียนรู้ ทําความเข้าใจ ร่วมแสดงทัศนะร่วมเสนอปัญหาหรือประเด็นที่สําคัญ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคิด แนวทาง ร่วมการแก้ไขปัญหา ร่วมในกระบวนการตัดสินใจ และร่วมกระบวนการพัฒนาในฐานะ หุ้นส่วนการพัฒนา
7 หลักการกระจายอํานาจ (Decentralization) คือ การถ่ายโอนอํานาจการตัดสินใจ ทรัพยากรและภารกิจ จากส่วนราชการส่วนกลางให้แก่หน่วยการปกครองอื่นๆ (ราชการบริหาร ส่วนท้องถิ่น) และภาคประชาชนดําเนินการ แทนโดยมีอิสระตามสมควร รวมถึงการมอบอํานาจและความรับผิดชอบในการตัดสินใจ และการดําเนินการให้แก่ บุคลากร โดยมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจในการให้บริการต่อผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียการปรับปรุง กระบวนการ และเพิ่มผลิตภาพ เพื่อผลการดําเนินงานที่ดีของส่วนราชการ
8 หลักนิติธรรม (Rule of Law) คือ การใช้อํานาจของกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับในการบริหารราชการ ด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และคํานึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
9 หลักความเสมอภาค (Equity) คือ การได้รับการปฏิบัติและได้รับบริการอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มี การแบ่งแยกด้านชายหรือหญิง ถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษา การฝึกอบรม และอื่นๆ
10 หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented) คือ การหาข้อตกลงทั่วไปภายในกลุ่ม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกิดจากการใช้กระบวนการเพื่อหาข้อคิดเห็นจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับประโยชน์และ เสียประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงซึ่งต้องไม่มีข้อคัดค้านที่ยุติไม่ได้ในประเด็นที่สําคัญ โดย ฉันทามติไม่จําเป็นต้องหมายความว่าเป็นความเห็นพ้อง โดยเอกฉันท์
ผลการดำเนินงาน
ตนข้อเกณฑ์ผลการดำเนินงานหลักฐาน
1หลักประสิทธิผล (Effectiveness) คือ ผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของ แผนการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณมาดําเนินการ รวมถึงสามารถเทียบเคียงกับส่วนราชการหรือ หน่วยงานที่มีภารกิจคล้ายคลึงกันและมีผลการปฏิบัติงานในระดับชั้นนําของประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อ ประชาชน โดยการปฏิบัติราชการจะต้องมีทิศทางยุทธศาสตร์และเป้าประสงค์ที่ชัดเจน มีกระบวนการปฏิบัติงาน และระบบงานที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงมีการติดตามประเมินผลและพัฒนา ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

1.สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการมีการบริหารงานตามหลักประสิทธิผล (Effectiveness) ดังนี้

1.1 มีผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 (1.5-2(1)) โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 1,103,000 บาท สามารถเบิกจ่ายตามแผน 673,076 บาท คิดเป็นร้อยละ 61.02

1.2 มีการจัดทำแผนกลยุทธศาสตร์ สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ พ.ศ.2566-2570 (1.5-(2)) และจัดทำรายงานประจำปี  (1.5-(3))  เพื่อรายงานต่อผู้บริหาร เผยแพร่ต่อสาธารณชน

1.3 มีผลรายงานการประเมินตนเอง สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ ประจำปีการศึกษา 2565 (SAR)

 

2หลักประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การบริหารราชการตามแนวทางการกํากับดูแลที่ดีที่มีการออกแบบ กระบวนการปฏิบัติงานโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือการบริหารจัดการที่เหมาะสมให้องค์การสามารถใช้ทรัพยากร ทั้งด้านต้นทุน แรงงานและระยะเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติราชการ ตามภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

2. สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการมีการบริหารงานตามหลักประสิทธิภาพ (Efficiency) ดังนี้

     ผู้บริหารให้ความสำคัญในการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ โดยใช้กระบวนการ ประชุมคณะกรรมการบอร์ดต่างๆ เพื่อกำกับติดตาม และใช้มติที่ประชุมในการหาข้อสรุปร่วมกัน โดยมีหัวหน้างานเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการบริหารสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ (1.5-2(1)) คณะกรรมการประจำสำนักส่งเสริมและบริการวิชการ(1.5-2(2)

      มีการใช้นวัตกรรมในการบริหารจัดการองค์กร โดยมีการมอบนโยบายให้หน่วยงานลดขั้นตอนการปฏิบัติงานให้มีระยะเวลา ต้นทุนที่น้อยลง แต่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่น การให้บริการรับสมัครนักศึกษาออนไลน์ (1.5-2(3)และการให้บริการเอกสารทางการศึกษา เป็นต้น

 

3หลักการตอบสนอง (Responsiveness) คือ การให้บริการที่สามารถดําเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กําหนด และสร้าง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ รวมถึงตอบสนองความคาดหวังหรือความต้องการของประชาชน ผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความหลากหลายและมีความแตกต่าง

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ มีการบริหารงานตามหลักการตอบสนอง (Responsiveness) ดังนี้

       มีการให้บริการที่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้รับบริการ โดยมีผลการประเมินความพึงพอใจ การให้บริการด้านต่างๆ ดังนี้

  1. การให้บริการด้านเอกสารทางการศึกษา 
  2. การให้บริการจองรายวิชา มีผลการประเมินความพึงพอใจการให้บริการจองรายวิชา 
  3. การให้บริการตารางเรียน ตารางสอน ตารางสอบ และตารางการใช้ห้อง 

     4.สำนักส่งเสริมและบริการวิชากรรได้มีช่องทางการติดต่อกับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ผ่านเพจสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ โดยมีการตอบข้อมูลด้านการรับสมัครนักศึกษา

 

4หลักภาระรับผิดชอบ (Accountability) คือ การแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่อเป้าหมายที่กําหนดไว้ โดยความรับผิดชอบนั้นควรอยู่ในระดับที่สนองต่อความคาดหวังของสาธารณะ รวมทั้งการแสดงถึงความสํานึกในการรับผิดชอบต่อปัญหาสาธารณะ

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่โดยคำถึงการดำเนินงานตามพันธ์กิจเพื่อให้การบริหารงานบรรลุเป้าหมายและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ครอบคลุมพันธกิจของมหาวิทยาลัย ผู้บริหารได้รับการคำสั่งมอบหมายงาน แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการวิชาการ  มีการแต่งตั้งคณะกรรมการหมวดวิชาการศึกษาทั่วไป มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย

5หลักความโปร่งใส (Transparency) คือ กระบวนการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงได้ เมื่อมีข้อสงสัย และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายได้อย่างเสรี โดยประชาชนสามารถรู้ทุกขั้นตอนในการดําเนินกิจกรรมหรือกระบวนการต่างๆ และสามารถตรวจสอบได้

สำนักส่งเสริและบริการวิชาการ มีการบริหารงานตามหลักความโปร่งใส (Transparency) ดังนี้

       มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มีการดำเนินกิจกรรมหรือกระบวนการต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ 

1 สายตรงผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งปัญหา หรือข้อสงสัย เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงาน

2 เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหน่วยงานและกิจกรรมผ่าน เว็ปไซต์ สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ http://www.oass.sskru.ac.th/OASS.html)  

 

 

6หลักการมีส่วนร่วม (Participation) คือ กระบวนการที่ข้าราชการ ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกกลุ่มมีโอกาสได้เข้าร่วมในการรับรู้ เรียนรู้ ทําความเข้าใจ ร่วมแสดงทัศนะร่วมเสนอปัญหาหรือประเด็นที่สําคัญ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคิด แนวทาง ร่วมการแก้ไขปัญหา ร่วมในกระบวนการตัดสินใจ และร่วมกระบวนการพัฒนาในฐานะ หุ้นส่วนการพัฒนา

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกระดับในหน่วยงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มีการบริหารงานและกำกับการดำเนินงานในรูปแบบของคณะกรรมการ มีการแบ่งงานตามโครงสร้างการบริหารของหน่วยงาน และมีการแต่งตั้งบุคลากรเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (1.8-6(1)) คณะกรรมการติดตามจัดเก็บตัวชี้วัดประกันคุณภาพสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ (1.8-6(2))  และคณะกรรมการการจัดการความรู้ (1.8-6(3))

7หลักการกระจายอํานาจ (Decentralization) คือ การถ่ายโอนอํานาจการตัดสินใจ ทรัพยากรและภารกิจ จากส่วนราชการส่วนกลางให้แก่หน่วยการปกครองอื่นๆ (ราชการบริหาร ส่วนท้องถิ่น) และภาคประชาชนดําเนินการ แทนโดยมีอิสระตามสมควร รวมถึงการมอบอํานาจและความรับผิดชอบในการตัดสินใจ และการดําเนินการให้แก่ บุคลากร โดยมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจในการให้บริการต่อผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียการปรับปรุง กระบวนการ และเพิ่มผลิตภาพ เพื่อผลการดําเนินงานที่ดีของส่วนราชการ

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ มีการบริหารงานตามหลักการกระจายอํานาจ (Decentralization) ดังนี้

       1. มีการมอบหมายผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ เพื่อประโยชน์และความเหมาะสมในการปฏิบัติราชการ และเพื่อให้งานในสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ 

       2.มีการจัดทำคำสั่งมอบหมาย หัวหน้างาน โดยมีบทบาทหน้าที่ เพื่อให้การกำกับดูแลและการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดผลดีแก่ทางราชการ  

       3.มีการจัดทำคำสั่งมอบหมายภาระงานให้บุคลากรสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ ให้เหมาะสมตรงตามตำแหน่งและฝ่ายงาน เพื่อให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9หลักความเสมอภาค (Equity) คือ การได้รับการปฏิบัติและได้รับบริการอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มี การแบ่งแยกด้านชายหรือหญิง ถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษา การฝึกอบรม และอื่นๆ

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ มีการบริหารงานตามหลักความเสมอภาค (Equity) ดังนี้

       ผู้บริหารสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการมีนโยบายที่ชัดเจนในการให้ความเสมอภาคต่อการบริหารงานภายในสำนักงานต่อบุคลากรทุกระดับ และรวมทั้งผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พันธกิจสำคัญการให้การบริการต่อนักศึกษา บุคลากรภายในและภายนอก ซึ่งผู้รับบริการจะได้รับการบริการอย่างเท่าเทียม โดยมีระบบการให้บริการผ่านเพจสำนักส่งเสริมและบริการวิชนการ ผ่านเว็บไซต์สำนัก หน้าเค้าเตอร์ให้บริการ

 

10หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented) คือ การหาข้อตกลงทั่วไปภายในกลุ่ม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกิดจากการใช้กระบวนการเพื่อหาข้อคิดเห็นจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับประโยชน์และ เสียประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงซึ่งต้องไม่มีข้อคัดค้านที่ยุติไม่ได้ในประเด็นที่สําคัญ โดย ฉันทามติไม่จําเป็นต้องหมายความว่าเป็นความเห็นพ้อง โดยเอกฉันท์

สำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ มีการบริหารงานตามหลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented) ดังนี้

       ในการประชุมคณะกรรมการบริการสำนัก และคณะกรรมการประจำสำนัก ผู้บริหารยึดกฎระเบียบข้อบังคับในการดำเนินงาน เคารพมติของเสียงส่วนใหญ่ และความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อให้เกิดฉันทามติ และการดำเนินงานของสำนักเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม รวมทั้ง ในการประชุมของหน่วยงานทุกระดับการประชุมของสำนัก

ผลคะแนนการประเมินตนเอง
ทำได้ (ข้อ) ได้คะแนน
10 5